ขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำเมื่อคุณพบว่าสินทรัพย์คริปโตของคุณสูญหาย หรือถูกขโมย

การตระหนักว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณหายไปเป็นเหมือนกับฝันร้าย แต่การกู้คืนสินทรัพย์คริปโตสามารถช่วยยุติฝันร้ายนั้นได้ หากมีผู้ไม่หวังดีขโมยสกุลเงินดิจิทัลของคุณไป คุณไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ประสบปัญหานี้ แฮกเกอร์ได้ขโมยคริปโตมูลค่า 901 ล้านดอลลาร์ จากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน บริดจ์ และโปรโตคอล DeFi ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ซึ่งในจำนวนนี้ 773 ล้านดอลลาร์ สูญเสียไปเนื่องจากปัญหาการเข้าถึงกระเป๋าเงินที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม รหัสผ่านที่สูญหาย การหลอกลวงแบบฟิชชิง การฉ้อโกงคริปโต และข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย เป็นสาเหตุสำคัญของกรณีการสูญหายและการโจรกรรมคริปโตจำนวนมาก

การสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยง แต่แม้แต่มาตรการที่ดีที่สุดก็อาจล้มเหลวได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องเริ่มกระบวนการกู้คืนสินทรัพย์คริปโตโดยเร็วที่สุด ในกรณีนี้ เราจะอธิบายอย่างชัดเจนว่าคุณควรทำอย่างไร เมื่อสินทรัพย์ของคุณสูญหายหรือถูกขโมย เพื่อให้คุณมีโอกาสที่ดีที่สุดในการกู้คืนสินทรัพย์ของคุณกลับมา

1. ทำความเข้าใจกับสถานการณ์

ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2021 มูลค่าของ คริปโตที่ถูกขโมยเพิ่มขึ้นถึง 9 เท่า โดยในเดือนสิงหาคม 2021 เพียงเดือนเดียว มีสินทรัพย์มูลค่ากว่า 725 ล้านดอลลาร์ สูญเสียไปจากการโจรกรรมและการโจมตีทางไซเบอร์ สำหรับเหยื่อหลายราย การกู้คืนสินทรัพย์เป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นจนสายเกินไป เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียถาวร คุณจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

สัญญาณของการถูกขโมยคริปโต

มักจะมีสัญญาณบ่งบอกว่ามีคนขโมยคริปโตของคุณไป เพียงแต่คุณต้องรู้ว่าจะตรวจสอบจากที่ไหน สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดคือ ยอดคงเหลือของคุณลดลงอย่างมากโดยไม่มีเหตุผล หากปริมาณคริปโตในบัญชีของคุณลดลงอย่างกะทันหัน และคุณไม่ได้อนุมัติธุรกรรมใด ๆ มีโอกาสสูงที่มันจะถูกขโมยไป

คุณอาจสังเกตเห็นธุรกรรมที่ถูกส่งออกโดยที่คุณไม่ได้อนุมัติ หรือกิจกรรมที่ผิดปกติอื่น ๆ ในบัญชีของคุณ เช่น:

• ความพยายามเข้าสู่ระบบจากสถานที่ที่คุณไม่เคยไป
• การพยายามเข้าสู่ระบบล้มเหลวหลายครั้ง
• การเข้าถึงบัญชีจากอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
• การเปลี่ยนรหัสผ่านโดยที่คุณไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากการตรวจสอบรายละเอียดในบัญชีของคุณแล้ว การติดตามข่าวสารในวงการคริปโตก็เป็นสิ่งสำคัญ หากคุณพบว่ามีการละเมิดความปลอดภัยในแพลตฟอร์มหรือกระดานเทรดที่คุณใช้ หรือมีรายงานว่าผู้ถือคริปโตรายอื่นถูกขโมยสินทรัพย์ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าสินทรัพย์ของคุณอาจกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงหรือสูญหายไปแล้ว

คริปโตสูญหายได้อย่างไร

เนื่องจากคริปโตเป็นสกุลเงินดิจิทัล คุณจะไม่ทำมันหายเหมือนกระเป๋าสตางค์ที่ลืมไว้ในร้านค้า แต่คุณอาจสูญเสียคริปโตด้วยสาเหตุอื่น ๆ เช่น:

• การโจมตีแบบฟิชชิงผ่านเว็บไซต์หรืออีเมลปลอม
• การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
• การเปิดเผยคีย์ส่วนตัวหรือวลีกู้คืน (recovery phrase)
• การใช้ปลั๊กอินกระเป๋าเงินปลอม
• การอนุญาตให้เว็บไซต์เข้าถึงกระเป๋าคริปโตของคุณโดยไม่จำกัดสิทธิ์

หากคุณพบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณสูญหายจากสาเหตุเหล่านี้หรือเหตุการณ์อื่น ๆ คุณควรดำเนินการทันทีเพื่อลดความเสี่ยง โดยหยุดใช้แพลตฟอร์มนั้นชั่วคราว จนกว่าการตรวจสอบจะเสร็จสิ้นและคุณสามารถยืนยันได้ว่าทั้งแพลตฟอร์มและสินทรัพย์ของคุณปลอดภัย

สาเหตุที่พบบ่อยของการสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Assets)

• การพยายามหลอกลวงผ่านเว็บไซต์หรืออีเมลปลอม (Phishing)
• การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
• การแจกจ่ายคีย์ส่วนตัวหรือวลีกู้คืน (Recovery Phrases)
• การโต้ตอบกับส่วนขยายกระเป๋าเงินปลอม
• การให้สิทธิ์เว็บไซต์เข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโตแบบไม่จำกัด

2.ติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ

เมื่อคุณรู้ว่าคริปโตเคอเรนซีของคุณหายไป ทุกนาทีอาจส่งผลต่อโอกาสในการกู้คืนสินทรัพย์ที่สูญหายหรือถูกขโมย หากคุณใช้บริการจากกระดานแลกเปลี่ยน หรือผู้ให้บริการกระเป๋าเงินที่มีความน่าเชื่อถือและขนาดใหญ่ พวกเขาอาจเริ่มการสืบสวนและพยายามกู้คืนเงินของคุณแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีผู้เสียหายหลายรายหรือมีความเสี่ยงที่คนอื่นจะได้รับผลกระทบ

ถึงแม้ว่าบริษัทคริปโตเคอเรนซีอาจดำเนินการค้นหาสินทรัพย์ของคุณอยู่แล้ว แต่คุณไม่ควรรอให้พวกเขาติดต่อมาเอง ทันทีที่คุณรู้ว่าสินทรัพย์ของคุณหายไป ให้ติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของกระเป๋าเงิน หรือกระดานแลกเปลี่ยนที่คุณใช้บริการ แจ้งรายละเอียดทั้งหมด เกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตที่สูญหายหรือถูกขโมย รวมถึงจำนวนที่แน่นอน

ผู้ให้บริการของคุณอาจมีเครื่องมือและอำนาจในการทำการวิเคราะห์อิสระ ซึ่งจะช่วยให้สามารถติดตามและกู้คืนเงินที่สูญหายได้ นอกจากนี้พวกเขาอาจมีนโยบายประกันที่ช่วยในการกู้คืนเงินทุนของคุณ หรืออาจมีตัวเลือกในการระงับธุรกรรม หากตรวจพบการสูญหายได้เร็วพอ

คุณควรติดต่อผู้ให้บริการโดยไม่คำนึงว่าคุณคิดว่าพวกเขาจะช่วยเหลืออย่างจริงจังหรือไม่ อย่างไรก็ตามตำแหน่งที่ตั้งของผู้ให้บริการอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ ตัวอย่างเช่น กระดานแลกเปลี่ยนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีข้อบังคับน้อย อาจไม่เต็มใจให้ความร่วมมือในการสืบสวน ซึ่งอาจทำให้การกู้คืนเงินเป็นไปได้ยากขึ้น

3.รายงานการสูญเสียต่อเจ้าหน้าที่

ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนหรือกระเป๋าเงินไม่ใช่องค์กรเดียวที่ต้องรับรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ที่สูญหายของคุณ คุณควรรายงานเหตุการณ์นี้ต่อหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย น่าเสียดายที่แพลตฟอร์มคริปโตเคอเรนซีแตกต่างจากบริการทางการเงินอื่นๆ เนื่องจากไม่มีการคุ้มครองผู้บริโภคโดยเฉพาะ ไม่เหมือนกับสกุลเงินทั่วไปที่รัฐบาลสามารถคุ้มครองหรือประกันเงินลงทุนของคุณในกระดานแลกเปลี่ยนหรือกระเป๋าเงินได้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหน่วยงานรัฐบาลเริ่มให้ความสำคัญกับการโจรกรรมคริปโตเคอเรนซีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในเดือนกันยายน 2023 ตำรวจในคอนเนตทิคัตสามารถ กู้คืน Bitcoin มูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกขโมยจากการหลอกลวงได้ กรณีเช่นนี้ทำให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายมีความหวังในการกู้คืนสินทรัพย์ของตน

ดังนั้น คุณควรรายงานการสูญเสียของคุณต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเชื่อว่าเกิดอาชญากรรมขึ้นหรือสูญเสียคริปโตเป็นจำนวนมาก ให้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ให้มากที่สุด และให้ความร่วมมือกับการสืบสวนอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้คืนเงินของคุณ อย่าปิดบังข้อมูลเมื่อตำรวจสอบถาม เนื่องจากข้อมูลที่คุณให้สามารถช่วยระบุตัว และดำเนินคดีกับผู้ที่ขโมยคริปโตของคุณได้

คุณยังสามารถรายงานอาชญากรรมต่อ ทีมบังคับใช้กฎหมายด้านคริปโตแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (NCET) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Eun Young Choi ทีมนี้ทำหน้าที่สืบสวนและดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นเหยื่อเพียงรายเดียวของการหลอกลวง หรือมูลค่าความเสียหายของคุณค่อนข้างน้อย หน่วยงานรัฐบาลกลางอาจไม่สามารถช่วยเหลือได้มากนัก เนื่องจากมีการหลอกลวงและแฮ็กเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละเดือน ทำให้พวกเขาไม่มีทรัพยากรเพียงพอที่จะช่วยเหลือพลเมืองทุกคนที่สูญเสียเงิน

4. ใช้การวิเคราะห์ทางนิติวิทยาศาสตร์บนบล็อกเชน

คุณไม่จำเป็นต้องรอเพียงอย่างเดียว ในขณะที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกำลังหาหลักฐาน แต่คุณสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน การวิเคราะห์นิติวิทยาศาสตร์บนบล็อกเชน เพื่อดำเนินการสืบสวนธุรกรรมคริปโต ติดตามและวิเคราะห์ธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพยายามกู้คืนเงินของคุณ

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคริปโตเคอเรนซีคือมันทิ้งร่องรอยไว้ แต่เจ้าของและนักลงทุนหลายคนไม่รู้วิธีติดตามมัน ผู้เชี่ยวชาญด้าน นิติวิทยาศาสตร์บล็อกเชน ได้รับการฝึกฝนในการติดตามสินทรัพย์ที่ถูกขโมยจากการโจรกรรมคริปโต โดยใช้บันทึกดิจิทัลที่มีอยู่ถาวรบนบล็อกเชนเพื่อดำเนินกระบวนการต่างๆ เช่น:

• รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียของคุณ
• วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการ เช่น การจัดกลุ่มที่อยู่ (Address Clustering), การวิเคราะห์เครือข่าย (Network Analysis) และการวิเคราะห์กราฟธุรกรรม (Transaction Graph Analysis)
• แสดงผลการวิเคราะห์ผ่านแผนภูมิและไดอะแกรม
• นำเสนอหลักฐานให้คุณและแจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเมื่อจำเป็น

อาชญากรมักใช้เทคนิคต่างๆ เช่น มิกเซอร์ (Mixers) และ การเปลี่ยนบล็อกเชน (Chain-hopping) เพื่อลบล้างร่องรอยและทำให้การสืบสวนยากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริการกู้คืนสินทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง ตระหนักถึงกลยุทธ์เหล่านี้และพัฒนาวิธีการรับมืออย่างต่อเนื่อง

ขั้นตอนสำคัญในการสืบสวนคริปโต

ขั้นตอนที่ 1
รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความสูญเสียของคุณ

ขั้นตอนที่ 2
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีต่างๆ เช่น การจัดกลุ่มที่อยู่ (address clustering), การวิเคราะห์เครือข่าย (network analysis), และการวิเคราะห์กราฟธุรกรรม (transaction graph analysis)

ขั้นตอนที่ 3
แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบแผนภูมิและไดอะแกรม

ขั้นตอนที่ 4
นำเสนอหลักฐานให้คุณ และเมื่อจำเป็น ส่งต่อให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

5. ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัย

ในขณะที่บริการกู้คืนกำลังดำเนินการสืบสวนและพยายามกู้คืนคริปโตของคุณ หน้าที่ของคุณคือการปกป้องเงินทุนที่เหลืออยู่ สามารถลดความเสี่ยงของคุณโดยใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของคริปโต เช่น:

• เปลี่ยนอีเมลและทำการฟอร์แมต หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้เก็บสินทรัพย์คริปโตหลังจากบัญชีของคุณถูกโจมตี
• ใช้กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์แบบเย็น (Cold Wallet) ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• อัปเดตและเสริมความแข็งแกร่งของรหัสผ่านและโปรโตคอลความปลอดภัย
• ตรวจสอบกิจกรรมในบัญชีคริปโตของคุณอย่างสม่ำเสมอ
• ทบทวนบัญชีอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับกระเป๋าเงินหรือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตของคุณเป็นประจำ
• รู้จักสัญญาณของการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง (Phishing Scams)

นอกจากวิธีเหล่านี้ อย่ามองข้ามความสำคัญของการใช้บริการกระเป๋าเงินหรือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่มีชื่อเสียง แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตจำนวนมากทั่วโลกใช้ระบบตรวจสอบลูกค้า (KYC – Know Your Customer) เพื่อเก็บข้อมูลระบุตัวตนของผู้ใช้คริปโต ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้นักสืบสามารถดำเนินการกู้คืนสินทรัพย์คริปโตได้ง่ายขึ้นหากเงินของคุณสูญหาย

แม้ว่าวิธีการเหล่านี้จะไม่สามารถที่จะทำให้คุณปลอดภัยจากทุกความเสี่ยงในโลกคริปโต แต่สามารถลดจำนวนความเสี่ยงที่คุณต้องเผชิญได้อย่างมาก แผนการรักษาความปลอดภัยที่ดี คือป้องกันคุณจากแฮ็กเกอร์ มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) และมิจฉาชีพประเภทต่างๆ